นโยบายส่วนบุคคล

1. คำนำ

บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ('เอฟดับบลิวดี' หรือ 'บริษัทฯ') ใส่ใจถึงความสำคัญของความเป็นส่วนตัวของท่าน และมีความมุ่งมั่นรับผิดชอบทุกประการในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน 

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ได้ระบุรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ว่าเป็นเรื่องบริษัทฯ มีการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร รวมไปถึงรายละเอียดในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย โอน หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านว่าบริษัทฯ ดำเนินการอย่างไร เมื่อใด และด้วยเหตุใด รวมทั้งมีข้อมูลและขั้นตอนอะไรบ้างที่บริษัทฯ นำมาใช้เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านยังคงเป็นความลับและปลอดภัย และบริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเพียงใด และท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้อย่างไร รวมทั้งสิทธิต่างๆ ที่ท่านมีเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (‘พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล’) 

บริษัทฯ จึงขอให้ท่านศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เพื่อท่านจะได้ทราบและเข้าใจสิทธิต่างๆ ที่ท่านมีเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้หรือมีอยู่กับบริษัทฯ อนึ่ง นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ไม่ว่าจะในเวลาใดก็ตาม ดังนั้น ท่านควรกลับเข้ามาอ่านนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว อย่างไรก็ตาม หากนโยบายฉบับนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบทันที 

2. บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านประเภทใดบ้าง

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมายถึง ข้อมูลใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับท่าน ที่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม และไม่ว่าจากข้อมูลดังกล่าวเพียงอย่างเดียวหรือโดยรวมกับข้อมูลที่ระบุตัวตนอื่นที่บริษัทฯ มีอยู่หรือบริษัทฯ สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตามความเหมาะสม  ยกเว้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต  ทั้งนี้ ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจะขึ้นอยู่กับ ขอบเขตการให้บริการและ/หรือประเภทของผลิตภัณฑ์ที่ท่านสนใจหรือที่บริษัทฯ เป็นผู้จัดหาให้กับท่าน

บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมหรือถือครองข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านเลือกใช้หรือความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ

  • รายละเอียดเกี่ยวกับตัวท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด การศึกษา อาชีพ สถานภาพสมรส  และสัญชาติ
  • รายละเอียดสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ อีเมล์ โทรศัพท์และบัญชีโซเชียลมีเดีย
  • รายละเอียดเกี่ยวกับการระบุและยืนยันตัวตน เช่นหมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขใบขับขี่ ภาพถ่าย ภาพจากกล้องวงจรปิด
  • รายละเอียดทางการเงิน เช่น ประวัติการจ่ายเงินของท่าน หมายเลขบัตรเครดิต รายละเอียดบัญชีธนาคาร
  • ผลการตรวจสอบของบริษัทฯ ในรายละเอียดเกี่ยวกับท่านในเรื่องเครดิต ความน่าเชื่อถือ หรือประวัติทางการเงิน
  • รายละเอียดเกี่ยวกับการเรียกร้องสินไหมทดแทน ในกรณีที่เกี่ยวข้อง
  • ข้อมูลการจ้างงานและเงินเดือน
  • ชื่อและที่อยู่ของผู้อยู่ในอุปการะหรือผู้รับผลประโยชน์ของท่าน
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการที่ท่านได้ใช้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ของบริษัทฯ รวมทั้ง IP Address และข้อมูลอุปกรณ์
  • ประวัติและผลการสมัครเอาประกัน
  • สถานะการเป็นบุคคลที่มีข้อจำกัดในการทำธุรกรรมตามกฎหมาย เช่น กฎหมายล้มละลาย กฎหมายว่าด้วยการฟอกเงิน กฎหมายป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนการเงินแก่การก่อการร้าย กฎหมายภาษีอากร การเป็นสมาชิกองค์กร วิชาชีพ หรือสมาคมการค้า 
  • ข้อมูลอื่น ๆ ที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯ

นอกจากนี้แล้ว บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมและถือครองข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว (sensitive data) ของท่าน เช่น

  • ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลทางการแพทย์หรือการรักษาพยาบาล 
  • เชื้อชาติ หรือเผ่าพันธุ์
  • รสนิยมหรือวิถีทางเพศ
  • การเป็นสมาชิกองค์กรทางการเมือง 
  • ประวัติอาชญากรรมและการดำเนินคดี
  • ความเชื่อทางศาสนาหรือปรัชญา
  • ข้อมูลเกี่ยวกับพันธุกรรม และ
  • ข้อมูลอัตลักษณ์ทางชีวภาพ (biometric)

หากท่านไม่ให้หรือไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลบางประการ หรือไม่ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็น เพื่อให้บริษัทฯ สร้างความสัมพันธ์กับท่าน หรือให้บริการและ/หรือจัดหาสินค้าแก่ท่าน บริษัทฯ อาจไม่สามารถติดต่อกับท่าน หรือเข้าทำสัญญากับท่าน หรือปฏิบัติภาระหน้าที่ของบริษัทฯ ตามสัญญาที่ทำกับท่านไว้ได้ ในบางกรณีที่บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบางประการ และท่านไม่ให้หรือไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลบางประการใด ๆ บริษัทฯ อาจต้องรับผิดสำหรับการไม่ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

3. บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลของส่วนบุคคลของท่านเพื่ออะไร และอย่างไร

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ยุติธรรมและจำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์เจาะจง อีกทั้ง ได้กำหนดเหตุผลที่ถูกต้องตามกฎหมายบางประการ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ นำมาประมวลผล

บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะกรณีที่กฎหมายได้กำหนดหรืออนุญาตไว้ (การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือ legal compliance)  เพื่อการให้บริการ/สินค้าต่างๆ ที่ระบุไว้ในสัญญา (สัญญา หรือ contracts) เพื่อป้องกันอันตรายแก่ชีวิต ร่างกายและสุขภาพ (ประโยชน์สำคัญต่อชีวิต หรือ vital interest)  ในกรณีที่เป็นประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ (legitimate interest) หรือในกรณีที่บริษัทฯ ได้รับอนุญาตจากท่าน (ความยินยอม หรือ consent)

ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้และเหตุผลที่บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้ 

  1. การปฏิบัติตามกฎหมาย 
    บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ เช่น กฎหมายประกันภัย กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายภาษี กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

    รวมถึงการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวของท่านต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (‘สำนักงานคปภ.’) เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงานคปภ. ซึ่งท่านสามารถตรวจดูได้ที่เว็บไซต์ www.oic.or.th

     

  2. สัญญา 
    บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา
    การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างท่านและบริษัทฯ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ 
    • จัดหาสินค้าและบริการต่างๆ ให้กับท่าน และเพื่อบริหาร ดำเนินการ ดำรงรักษา จัดการและใช้บริการและสินค้าต่างๆ ดังกล่าว รวมทั้งแต่ไม่จำกัดเพียง ผลิตภัณฑ์ด้านประกันภัย ด้านการเงินหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของบริษัทฯ
    • ดำเนินการ ประเมิน และพิจารณารับประกันหรือคำร้องขอใดๆ ของท่านเกี่ยวกับ บริการ หรือสินค้าต่างๆ ของบริษัทฯ ที่ออก หรือจัดทำสัญญาประกันภัยและรักษาบัญชีของท่านไว้กับบริษัทฯ
    • ดำเนินขั้นตอนและดำเนินการตามคำสั่งให้มีการชำระเงิน
    • กำหนดจำนวนหนี้ที่ท่านค้างชำระหรือที่ต้องชำระให้แก่ท่าน เรียกเก็บเงินหรือทวงถามยอดเงินใดๆ ที่ท่านหรือบุคคลใดๆ ซึ่งเป็นผู้ให้หลักประกันหรือคำมั่นในการเข้ารับภาระหนี้สินที่ต้องชำระของท่าน และ
    • ใช้สิทธิใดๆ ที่บริษัทฯ อาจมีเกี่ยวกับสินค้าและ/หรือบริการที่บริษัทฯ จัดให้กับท่าน และ
    • เพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนต่างๆ ที่ท่านมี หรือการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเอากับท่าน หรือโดยประการอื่นที่เกี่ยวข้องกับท่านในส่วนของสินค้าและ/หรือบริการใดๆ ที่บริษัทฯ ได้จัดให้กับท่าน รวมทั้งแต่ไม่จำกัดถึง การเรียกร้อง ปกป้อง วิเคราะห์ ตรวจสอบ ประมวลผล ประเมิน กำหนด เจรจา แก้ไข หรือยุติการเรียกร้องดังกล่าว
  3. ประโยชน์ที่สำคัญต่อชีวิต (vital interest) 
    บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยยึดหลักประโยชน์ที่สำคัญต่อชีวิตเพื่อป้องกันหรือหลีกเลี่ยงอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  4. ประโยชน์อันชอบธรรม (legitimate interest)
    บริษัทฯ อาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ด้วยหลักประโยชน์อันชอบธรรมที่บริษัทฯ หรือบุคคลภายนอกยึดถือ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาประโยชน์ สิทธิและเสรีภาพของท่านแล้ว บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้หลักประโยชน์อันชอบธรรมดังนี้
    • ปฏิบัติตามภาระหน้าที่ นโยบายหรือขั้นตอนการให้ข้อมูลภายในเอฟดับบลิวดี และ/หรือการใช้ข้อมูลโดยเป็นไปตามโครงการของเอฟดับบลิวดี เพื่อปฏิบัติตามมาตรการบังคับต่าง ๆ หรือเพื่อป้องกันหรือตรวจจับการฟอกเงิน การให้การสนับสนุนทางการเงินเพื่อการก่อการร้าย การฉ้อโกง หรืออาชญากรรมอื่นๆ  รวมทั้งกิจกรรมต่างๆ ที่ผิดกฎหมาย 
    • เพื่อบรรลุข้อผูกพันทางสัญญา หรือข้อผูกพันอื่นๆ ไม่ว่าจะในปัจจุบันหรือในอนาคตที่มีอยู่กับหน่วยงานด้านกฎหมาย หน่วยงานการกำกับดูแล หน่วยงานรัฐบาล ภาษี การบังคับใช้กฎหมายหรือหน่วยงานอื่นๆ และองค์กรกำกับดูแลตนเองหรือองค์กรอุตสาหกรรม เช่น สภาหรือสมาคมบริษัทประกันภัยในประเทศไทยหรือเขตอำนาจอื่นๆ 
    • บรรลุภาระหน้าที่ในการเปิดเผยข้อมูลตามที่กำหนดโดยกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อพึงปฏิบัติ (code of practice) หรือแนวทาง (guidelines) ต่างๆ  (ที่ใช้บังคับไม่ว่าจะในหรือนอกประเทศไทย) ที่มีผลผูกพันบริษัทฯ หรือ บริษัทย่อย บริษัทโฮลดิ้ง บริษัทร่วมหรือบริษัทในเครือ หรือ บริษัทต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเอฟดับบลิวดี หรือภายใต้การควบคุมร่วมกับเอฟดับบลิวดี บริษัทคู่ค้า รวมทั้งแต่ไม่จำกัดถึง การเปิดเผยต่อหน่วยงานด้านกฎหมาย หน่วยงานการกำกับดูแล หน่วยงานรัฐบาล หน่วยงานภาษี หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหรือหน่วยงานอื่นๆ และองค์กรกำกับดูแลตนเองหรือองค์กรอุตสาหกรรม เช่น สภาหรือสมาคมบริษัทประกันภัยในประเทศไทยหรือเขตอำนาจอื่นๆ
    • เพื่อการบริหารจัดการงานภายใน การจัดทำรายงานข้อมูลภายใน การจัดทำบัญชี การตรวจสอบทางบัญชี การบริหารจัดการข้อร้องเรียน
    • จัดทำและดำรงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือและโมเดลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยง
    • ความปลอดภัยและความต่อเนื่องทางธุรกิจ และ
    • เพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเรียกร้องต่างๆ ที่ท่านมี หรือสิทธิเรียกร้องเอากับท่าน หรือโดยประการอื่นที่เกี่ยวข้องกับท่านในส่วนของสินค้าและ/หรือบริการใดๆ ที่บริษัทฯ ได้จัดให้กับท่าน รวมทั้งแต่ไม่จำกัดถึง การเรียกร้อง ปกป้อง วิเคราะห์ ตรวจสอบ ประมวลผล ประเมิน กำหนด เจรจา แก้ไข หรือยุติสิทธิเรียกร้องดังกล่าว